ความรู้สึกหลายมิตินิมิต

มิตินิมิต เค้าว่ากันว่า มันคือความฝัน ใช่ซิเราเองก็คงมีล่ะ มิติอันนี้ เป็นความช่างฝัน(กลางวัน)ที่อยากทำ อยากมี ความรู้สึกคิดเหมือนตัวเองอายุน้อยเสียอย่างงั้นแระ นี่ก็เกือบครึ่งค่อนชีวิตคนแล้ว ก็ยังมีความเพ้อฝันอยู่ (หรือว่าจะสายไปเสียแล้ว) ไม่มีอะไรสายเกินไปถ้าคิดจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ หรือสิ่งใหม่ คำนี้น่าจะยังใช้ได้ผสมกับความรู้สึกหลายมิตินี้ ก็ไม่รู้จะอย่างไง คงปล่อยให้เป็นกลไกของชีวิตมันพาเราเดินไปหาความฝันที่เราฝันไว้ ตอนนี้ก็เหมือนรอๆๆๆๆๆ บางอย่างที่จะช่วยเป็นตัวนำให้ความฝันที่เราอยากทำให้สำเร็จ นั่นคือ เงินค่ะ ..ใช่เนาะพอพูดถึงเงินก็นึกถึงหวยล่ะ อยากถูกหวย อยากได้เงินสักก้อนหนึ่งไปทำความฝัน ไปทำบุญตามที่ต้องการไว้ อยากสร้างบุญกุศลให้มากกว่านี้ (ไม่รู้ได้ทำมามากน้อยแค่ไหนนะ) ที่พูดถึงอยากถูกหวยก็เพราะว่า เป็นการฝันเพ้อเจ้อถึงรายได้ ที่หาได้ง่าย ได้มาโดยง่ายนั่นแระ เพราะทุกวันนี้กว่าเราจะได้แต่ละครั้งมันช่างยากเหลือเกิน อาจเป็นเพราะว่าเหงื่อเราบ่ได้ออกมั้ง เงินถึงเข้ามาหายากจัง มีคนที่จะช่วยจะให้เหมือนกัน แต่มันก็ช่างยากกว่าจะดึงมาได้แต่ล่ะครั้ง ใช่ว่าจะง่ายๆ ละเฮ้อ...ไม่อยากให้เค้าคิดว่าเรางก (แต่มันก็จริงนั่นแระ อยากได้ซิ..แต่ก็คิดไปคิดมาก็ช่างมันเถอะ..เงินไม่ใช่สิ่งสุดท้ายของชีวิต แต่เงินมันก็เป็นสิ่งสำคัญในชีวิตเนาะ(เอ๊ะ..ไงเนี่ย ฮิๆๆ) ไปทำงาน(บ้านต่อดีกว่า) เพ้อเจ้อใหญ่เล้วเรา แฮ่ะๆ

อย่าแก่แล้วแก่เลย..

ชื่อเรื่องก็ย้ำให้ตนเองซะงั้น เฮ้อ...นั่งดูปฏิทินวันนี้ วันเวลาช่างผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน นี่อย่างเข้าเดือนที่ห้าของปีแล้ว ช่างย้ำให้รู้ตัวว่าแก่จัง ฮิฮิ..แต่ก็พยายามทำตัวไม่ให้แก่ ถึงแม้ว่ามันจะยากเหลือเกิน หน้าก็เริ่มดูว่าแก่แล้ว ก็คงปล่อยไปตามโลกหมุนล่ะ จะอะไรมากมาย นี่ชีวิตเราก็ผ่านเกือบค่อนชีวิตคนเลย เร็วเหมือนกัน นั่งเล่นจิกเขียนความรู้สึกเรื่อยเปื่อย เหมือนฝึกมือพิมพ์ดีดจากคอมล่ะ ได้อารมณ์จิกๆๆเขียนไปตามประสา รู้ว่าไม่ได้สาระ แต่ก็อยากจิกเขียน..เฮ้อ..

อารมณ์ร่วมคืนนี้เช้านี้

เออ.เนาะเราตั้งชื่อเรื่อง ซะหมิ่นเหม่ Rเชียว ..ไม่ใช่อะไรหรอก ก็หมายถึง อารมณ์ที่รวมกับความคิดอื่นๆ นะ (ยิ่งอธิบายยิ่งงงแฮ่ะ) คือคืนนี้เช้านี้ ตื่นตีสอง และมานั่งจิกเขียนอารมณ์ตีสี่สิบเจ็ดนาที นั่นไงอารมณ์นอนไม่หลับสับสนไปหมดแฮ่ะๆ หรือว่าเพราะนอนวันไปหรือเปล่าไม่รู้ แค่สี่ทุ่มเอง ร่างกายเลยรวนมาตื่นซะมันตีสองเลย ..เฮ้อ..ชีวิตฉาน ช่างหนักจัง หัวสมองมันเต็มไปด้วยขยะ(juck mail) มากกว่าล่ะ ทำให้ถึงต้องนอนไม่หลับ ไม่เป็นไรเมื่อมันนอนไม่หลับก็ตื่นมันเสียเลย มานั่งเล่นจิกเขียนอะไรเรื่อยเปื่อยดีกว่า (นั่งคิดอยู่นานว่าจะเขียนอะไรต่อดี) เออ.นะ

นึกไม่ออกจริงๆ ว่าจะเรียบเรียงความรู้สึก อยากระบายค่ะ ไม่รู้จะเริ่มต้นมันตรงไหนดี เพราะมันมีมากมายเหลือเกิน ก็ไม่ใช่เรื่องดีหรือเรืองสมหวังอะไรดอก แต่ก็ไม่ใช่เลวร้ายไปซะทุกเรื่อง สรุปแล้วอารมณ์ร่วม มันก็คงสับสนเช่นนี้เนาะ..เออ.ยิ่งเขียนยิ่งงง..ไปพยายามนอนต่ออีกสองสามชั่วโมงดีกว่าไปแระ..ไนท์ ๆ อุ้ยไม่ใช่ซิ ต้อง Good morning teather (หมายถึงครูนะ) เขียนถูกเปล่าไม่รู้ ขี้เกียจเปิดดิกดู..เฮ้อ..

บล็อคจิปาถะ

เมื่อวานนั่งจิกเขียนอะไรเรื่อยเปื่อย อ๋อ.ไม่ใช่ซิ นั่งทำบล็อคเล่นๆ ค่าเวลายามว่างจากงานบ้านก็เพลินดี ซักจะหลงในการทำบล็อคแล้วซิ นี่ก็เป็นอีกบล็อคหนึ่งที่ทำขึ้นมา เป็นบล็อค จิปาถะ (ลองคลิกไปดูก็ได้) เออ..เนาะแล้วเราจะบอกใครคลิกไปดูละเนี่ย อิๆๆก็เป็นเอาว่าคุยกับดินฟ้าอากาศแล้วกัน ตอนนี้ก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุด โดยเฉพาะช่วงวันไหนที่มีแดด ช่วงนั้นอารมณ์ก็จะสดชื่นเหมือนกัน ความเหงาก็จะหายไปบ้าง ก็ช่วยได้นะ ธรรมชาติ เวลายอดฮิตตอนนี้ก็คือ ไปเดินเล่นบนเขา ได้บรรยากาศอีกแบบหนึ่ง ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ของชีวิตในต่างแดนอีกช่วงหนึ่ง ก็จะจดจำไว้ล่ะ ไปทานข้าวเที่ยงดีกว่า...ฮิฮิ (จบแบบสั้นๆนี้แระ)

ความรู้สึกจิปาถะ


หลายวันเชียวไม่ได้เข้ามาจิกปลายนิ้วเขียนในบล็อคของตนเอง ใช่ว่าจะไม่มีเรื่องให้คิดนะ มีซิแต่มันเยอะเกินจนไม่สามารถเรียบเรียงไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นด้วยเรื่องอะไรดี แต่มันก็เหมือนเป็นmail ขยะเสียมากกว่า นี่ก็พยาม delete ไปบ้างแล้ว ถ้าไม่งั้นมันจะเต็มหัวไปหมด แต่ก็ยังมีคงค้างบ้างล่ะ เฮ้อ..ก็ไม่รู้เนาะ สมองยังสั่งงานเก็บข้อมูลได้ก็คงต้องเป็นอย่างงี้ไปตลอด แต่ก็พยายามที่จะทำตนเองให้สุขนะ วันก่อนอ่านบทความเรื่องหนึ่งน่าสนใจมาก เรื่องเกี่ยวกับ "ทำอย่างไรให้ชีวิตมีสุข" อ่านไปแล้วก็พยายามนำมาปฏิบัติกับชีวิตของตนเอง ทำได้บ้างไม่ได้บ้างตามประสามนุษย์กิเลสมากมายอยู่ แต่ก็พยายามแระ....


อย่างทีคำพระท่านเทศละเนาะ "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน" คำนี้อยู่ที่ไหนก็ใช้ได้ดีทีเดียว จะทุกข์จะสุขก็อยู่ที่ใจตนเองทำให้สุข ทำให้ทุกข์..และอีกอย่างหนึ่ง คือต้องพยายามทำให้ตนเองมีจิตใจที่เข้มแข็ง เพื่อจะอยู่ได้บนโลกใบนี้(เออ..พูดเสียกว้างเชียว) สรุปแล้วความรู้สึกวันนี้ก็คือ จิปาถะ ค่ะ..ไปอาบน้ำดีกว่า เพื่อความรู้สึกขยะ ๆในสมองจะได้ delete ออกให้หมด ฮิๆๆๆ

เมื่อคนมันบ้าหวย ฮิๆๆๆ

วันนี้ทั้งวันอากาศก็เป็นใจเสียงั้น เดี๋ยวฝนตก เดี๋ยวแดดออก แต่ส่วนมากจะฝนตกปรอยๆ มากกว่า ทำให้ได้บรรยากาศเหงาขนาด ตอนที่จิกปลายนิ้วเขียนตอนนี้ข้างนอกฝนก็ยังตกอีก รู้สึกจะมีลมด้วยนะ สังเกตุเห็นดอกไม้ตรงหน้าต่างปลิวไหวๆๆ อารมณ์ก็กระเจิงเชียว ก็มีอารมณ์หลากหลายไปมา แต่อารมณ์ที่แน่ ๆคือ อยากถูกหวยยูโรคืนนี้ง่ะ..(ตั้ง 38 ล้านปอนด์) แน่ะ ถ้าถูกนะเนาะๆ ก็ 1900 ล้านบาท(หนึ่งพันเก้าร้อยล้านบาทถ้วน) ย้ำนะ พันกว่าล้านบาทไทยเรา โอ้ยพระเจ้า พระเจ้า สาธุ สาธุ อยากถูกเหลือเกิน เออ..เนาะถ้าถูกแล้วคืนนี้จะทำอะไรก่อนดี ก่อนอื่นก็ต้องนอนพักผ่อน(ไม่รู้จะได้นอนหรือเปล่า กลัวตื่นเต้ลลลจัดฮ่าๆๆ)นอนไม่หลับอีก เฮ้อ.. แล้วก็วางแผนว่าจะทำไงไปขึ้นเงินล่ะ หลักจากนั้นขอไปทำบุญที่วัดไทยในสก็อตแลนด์นี้แระ อยากทำบุญก่อนเลย..หลังจากนั้นก็ค่อยว่ากันใหม่เนาะ..เฮ้อ....ตื่นๆๆๆได้แล้ว..อย่าพึ่งไปฝันกลางวันอยู่เลย เออ..เนาะพูดถึงการถูกหวย มันต้องขึ้นอยู่กับบุญ บารมี กรรมดีกรรมเก่าของคนเราด้วยเนาะ ถ้าบุญวาสนาเราดีมาก ดวงถูกหวยก็คงตามมาแระ คือแบบว่าให้กำลังตนเองนะ รู้ว่าตัวเองบุญน้อยด้อยวาสนา แต่ก็พยายามทำความดี ลบล้างกรรมเก่าอยู่นะ พยายามล้างให้หมดเร็วที่สุด แต่ถ้ามีเงินทองเหลือเฟือก็จะทำบุญให้มากกว่านี้นะ พระเจ้า...สาธุ สาธุ สาธุ(จบแบบอ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไงล่ะ)

บุญวาสนา กับความเป็นจริงของชีวิต(ยาวแฮ่ะ)

บางคนเกิดมาก็สมหวัง บางคนก็ไม่สมหวังในสิ่งที่หวังก็ว่ากันไปตามแต่บุญวาสนาล่ะ ที่เกิ่นเรื่องนี้ขึ้นมา ก็ไม่มีอะไรหรอก นั่งเล่นๆ ก็คิดอะไรตามประสาคนวาสนาน้อย (แต่ต้องการอยากมีวาสนาที่ดีๆ กะชาวบ้านเค้านะ) บางครั้งก็นึกให้กำลังใจตนเองว่า"ช่างมัน มันได้แค่นี้ก็เอาแค่นี้ ก็พอใจแค่นี้" ซึ่งความจริงมันไม่พอเลย กิเลสยังมีมากมาย ยังอยากมีวาสนาที่ดีกว่านี้ (คนเราก็โลภ ไม่รู้จักพอ) พอคิดมาก ต้องการมาก ก็เป็นทุกข์ใจ ความต้องการของชีวิตจริงก็ไม่น่าจะยุ่งอยากอะไร ถ้าคนเราเพียงพอกับสิ่งที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ (พูดเหมือนดูดีแต่ยังทำบ่ได้นะ แต่ก็พยายายามอยู่) หวังไว้วันใดวันหนึ่ง กิเลสที่ต้องการ อยากได้อยากมีเหมือนชาวบ้านเค้า ความคิดนี้ก็คงหมดไป (พูดไปก็วกวนไปมาล่ะ) เอาเป็นว่า บุญวาสนามีแค่นี้ก็เอาแค่นี้ละกัน อย่าคิดมากมาย คิดมากก็ปวดเฮด..ทำวันนี้ให้สุขดีกว่า เฮ้อ..จบแล้วงงๆ เช่นกัน

ปล. คำในวงเล็บเยอะจัง ก็เขียนให้งงๆ กับชีวิตงั้นแระ

การอยู่คนเดียวกับอยู่กับตนเอง

ขึ้นชื่อเรื่องก็งงๆแระ นั่นก็หมายถึงความรู้สึกที่เราต้องอยู่คนเดียวหรือเดินเล่นคนเดียว การอยู่กับตนเองแบบนี้มิใช่เป็นเรื่องแปลกเลย อยู่คนเดียวมานมนามมาก ตั้งแต่จำความได้ว่างั้นเถอะ ชอบอยู่คนเดียว คิดอะไรคนเดียว แต่พอมามีคนอยู่เคียงข้าง มันก็ไม่ได้แปลกอะไรมากมาย เพราะชีวิตก็มิได้เปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะก็ยังทำอะไรคนเดียวอยู่เหมือนเดิม คำเช่นบอกบรรทัดแรก........ไปแล้วว่าทำกิจกรรมอะไรบ้าง ฉะนั้นจึงไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากมายถ้าจะต้องอยู่คนเดียวทำอะไรคนเดียวอีก ดีเสียอีก เหมือนกับดาราสาวบางคนบอกว่า"ชีวิตก็เกิดมาคนเดียว ไปก็ไปคนเดียวอยู่แล้ว" นั่นล่ะคือของจริงเลย จึงมีข้อสรุปให้กับตนเองว่า อยากทำอะไรที่ตัวเองฝันก็คงต้องทำอย่างแน่นอน รอเวลา และโอกาสเท่านั้น ไม่อยากเสียใจเมื่อต้องอายุแก่กว่านี้(ใครบางคนพูดให้ฟังว่า เค้าต้องการทำอะไรตามใจที่เค้าอยากทำ เพราะไม่อยากเสียใจเมื่ออายุหกสิบ) นั่นไงล่ะความต้องการของคนคนหนึ่ง (เขียนไปอ่านซักงงๆๆ) สรุปเป็นเอาว่า ชอบนะ ถ้าต้องอยู่คนเดียว และมีชีวิตยุ่งๆ กับอีกชีวิตหนึ่ง เอ๊ะ! ไงเนี่ย..ไปนอนแระ....คืนนี้ ที่สก็อตแลนด์..........

ความสุขเมื่อได้ฝัน


บางครั้งคนเรานะ มีสุขได้ด้วยความฝัน เช่นกัน บางวันหรือเช่นวันนี้ฝันอยากมีลูกสาว และเพ้อฝันไปเรื่อยเปื่อย แค่คิดก็ยังมีความสุขเลย อยากสัมผัสกับความจริงๆ อยากตั้งท้อง อยากเจ็บปวดตอนเกิด อยากดูแล รับผิดชอบชีวิตน้อยๆ ที่มีชีวิต และที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเราเอง อยากมีชีวิตยุ่งๆ ที่ต้องดูแลลูกของตนเอง..เนาะ..อยากหลายอย่างจัง แฮ่ะๆๆก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเองว่าจะปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไปแค่ไหนเท่านั้น ถามว่า ยากไหมก็ไม่ใช่ยากหรือง่ายนะ กับความฝันแบบนี้ แต่คงรอเวลา รอจังหวะมากกว่า และที่สำคัญคือรอให้ใครบางคนมาสานร่วมหรือมาแชร์ความรู้สึกตรงนี้ในความฝันเราเท่านั้น ตรงนั้นรู้สึกจะยากมาก แต่ก็ช่างมันเถอะ คนเราสุขใจเมื่อได้ฝันก็พอ อยากที่คำท่านพระบอกว่า "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน" อืม....เกี่ยวกันไหมค่ะ

ปลายทางที่จุดหมาย

นั่งเล่นเรื่อยเปื่อย ทำอะไรเรียบร้อยเสร็จพอดี นั่งรอใครกลับมา ไม่รู้จะทำอะไรก็เลยมานั่งจิกเขียนอะไรเล่นๆ ดีกว่า เหมือนได้ update ความรู้สึกตนเองไปอีกวันหนึ่ง ความคืบหน้าก็ไม่มีอะไรมากมาย นั่งคิดวางแผน ว่าจะทำอะไรต่อไปในอนาคต.

ชีวิตก็เหมือนมีจุดหมายอะไรบางอย่าง อยากทำในสิ่งที่ตนเองรักตนเองชอบ คิดว่าต้องทำได้ดี แต่นั่นก็ยังเป็นความฝันอยู่ หวังว่ามันอาจจะเป็นความจริงแน่นอน เป็นปลายทางของชึวิตเราที่ต้องทำแล้ว ถึงเรียกว่า ปลายทาง ที่จุดหมาย..ไง เขียนเสร็จแล้วก็นั่งงงนิดหน่อย แต่ก็เข้าใจความหมายล่ะว่าคืออะไร อืมเนาะ!!!


ชอบรูปนี้จัง สบายใจดีเมื่อนั่งจ้อง...ฮิฮิ

ความรู้สึกท่ามกลางสายฝน


เออ..เนาะวันนี้ฝนตกตลอดทั้งวันเลย อารมณ์คนก็แปรปวนไปด้วย เซ็งกะชีวิตมากเลยวันนี้ ก็ได้เดินทางไปเรื่อยเปื่อยไปตามประสาคนขี้เหงา คิด ๆ ไปก็สงสารตนเองอยู่เหมือนกัน มาอยู่ทำไมว่ะที่นี่ อยู่เพื่ออะไร มีจุดมุ่งหมายอะไร(อันนี้รู้อยู่แก่ใจ ความลับ ไม่อยากเปิดเผย ว่าเราอยู่เพื่ออะไร) โอเคจะพูดว่า วันนี้อารมณ์เหงา ๆ ก็เลยเดินไปนั่งกินบรรยากาศในหมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้แระ แต่เป็นป้ายรถบัส (ป้ายรถเมล์เมืองไทยแระ) ไปหลบฝนด้วย ฝนตก เสียงฝนกระทบหลังคาป้ายรถ ก็พาลนึกถึง หลังคาสังกะสี สมัยเรายังเด็กๆ นอนรวมกับพี่น้องหลายคน ดูๆ แล้วก็อบอุ่นใจดี นอนฟังสายฝนกระทบหลังคา ใช่ ตอนนั้นนะ เสียงมันดัง แต่มันก็ทำให้เราหลับได้ เพราะเราอยู่กับครอบครัว พี่น้องพ่อแม่ (เออ..แล้วตอนนี้ทำไมมาอยู่ที่นี่ละ เออ.เนาะมาทำไมคำตอบก็อยู่ในใจเราเอง ความลับ) แต่ก็ช่างมันเถอะ..น้ำตาก็ไหลออกมา แข่งกับสายฝนที่โปรยปรายลงมา ชีวิตก็ช่าง........................มันเถอะ ..................เราเลือกเอง..................ก็ต้องยอมรับสภาพที่เป็น.........จบ

กับสายฝน โปรยความรู้สึก


เย็นวันนี้ มีโอกาสได้ไปเดินเล่น ท่ามกลางสายฝนโปรยปราย เราก็เดินเป็นนางเอกมิวสิคเชียว เดินไปเรื่อยเปื่อยก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อยเช่นกัน...ในใจก็ไม่ได้เหงาอะไรมากมาย เพียงแต่ต้องการเพื่อนมาเดินเคียงค้าง แต่ก็ไม่ใช่ความรู้สึกครั้งแรกที่ต้องการใครมาเดินด้วย มาเติมเต็มความรู้สึกที่หายไป ความรู้สึกนี้เราเป็นมานมนานมากๆ จำได้ว่า ตั้งแต่ยังวัยรุ่นเลยเชียวแระ (ตอนนี้ก็ยังวัยรุ่น แต่วัยรุ่นเกือบรุ่นกลางนะ อิอิ) แต่ความรู้สึกเป็นเช่นนั้นจริง ๆ หวิวๆ เวลาเดินท่ามกลางสายฝน อาจเป็นเพราะบรรยากาศพาไปมากกว่าเนาะ ถึงให้เรามีความรู้สึกเช่นนี้ขึ้นมา แต่ก็ช่างมันเถอะ(อีกแล้ว ประโยคนี้) ชินเสียแระ และความรู้สึกนี้ก็หายไปเมื่อเดินกลับบ้าน นั่นล่ะคือสายฝนที่โปรยความรู้สึกของเราเอง..ได้ใจความไหมเนี่ย....

ความรู้สึกมากมายก่ายกอง


เคยนะ เคยนฝันไว้หลายอย่าง ฝันอยากมีนั่นนี่ ฝันอยากรวย (อยากเป็นลูกคนรวย อี้เลาะ) ใช่นะ ตอนเด็กๆ ฝันแบบนี้จริงๆ เพราะเห็นลูกคนรวยในหมู่บ้านได้แต่งตัวสวย ๆ ได้ทานอาหารดี ได้ทานน้ำส้มแป๊บซี่ ประมาณนั้น ก็แอบมองพวกเค้าเหล่านั้น (เออ...แต่พอเราโตมาเราไม่ชอบทานเลยนะ สิ่งเหล่านี้ หรือว่าเรารวยแล้ว อิอิ) เออ.เนาะ สงสัยจะจริง รวยสุขภาพมากกว่าแฮ่ะๆ ชอบดื่มน้ำเปล่า อุ้ย..โม้ถึงไหนแระ จะบอกว่า ความฝันมีหลายอย่าง แต่ความฝันบางอย่างก็เป็นจริง แต่ทำด้วยตัวเองนะ คือเรียนจบปริญญาตรี นี่กะว่าถ้ามีการงานดีๆ จะไปเรียนต่อโทเสียหน่อย ใจยังคึกอยากเรียนอยู่ แต่ความคิดนี้ก็แป๊กเมื่อคิดว่า "เรียนไปทำไมว่ะ อยู่บ้านเฉยๆ แบบนี้" เฮ้อ..เลยจบเลยความคิดนี้ จริงนะเวลาได้ข่าวว่าคนนั้นคนนี้ เรียนต่อโท ใจนี่อยากเรียนจริง ๆแต่ก็ช่างมันเถอะ..จบมานี้ก็ดีแระ คือใจชอบเรียนรู้ไปเรื่อยนะ ฝันอยากมีบ้านก็มีแระ บ้านหลังเล็กๆ สีฟ้าของเฮา..แต่ความฝันที่ยากเหลือเกินที่ฝันไว้ คือฝันอยากมีลูกกะเค้า เรื่องนี้คงยากมั่กๆๆๆๆๆๆๆๆ (เห็นไหมว่ายาก ไม้ไต่คู้หลายตัวเชียว แห่ะๆๆ) แต่ก็ช่างมันเถอะ ต้องไปแก้กรรมเนาะ วันก่อนอ่านข่าวเมลล์ฟอร์เวิรส เพื่อนส่งมาให้) อืม.น่าสนใจดี มีโอกาสจะลองทำดู เนาะ ไม่เสียหลายดีออก ได้ทำบุญต่อสัตว์ด้วย ได้แก้กรรมด้วย สงสัยเราจะกรรมนะ ฮ่าๆๆๆไปแระ..."เออ.แล้วเรื่องทั้งหมดมันเกี่ยวอะไรกับชื่อเรื่องเนี่ย...ฮิฮิ"

ความคิดถึงกับความรู้สึก..


ว่าป่ะกับคำว่า ความคิดถึง กับความรู้สึกนี่มันจะคู่กันน่ะ แต่บางครั้งความรู้สึกนี้ก็จะแย้งกันในตัวมันเองแระ อย่างบางคืนนั่งนึกถึงใครบางคน มันก็คิดถึงแต่ แต่มันยังไม่ลึกซึ้งพอที่จะทำให้เราเหงาในใจ หรืออาจเป็นเพราะว่าในใจเราคิดอะไรไปมากมายหรือเปล่าเนาะ ความรู้สึกคิดถึงเค้าถึงไม่ทำให้เราเศร้าขึ้นมา หรือว่าไปคิดถึงอะไรมากกว่านั้น แต่ก็มีบางอารมณ์ที่สะดุ้งตื่นกลางดึกแล้วคิดถึงเค้ามาก แต่ก็เป็นเพียงแป๊บเดียว ใช่เนาะดีกับตัวเรา..เราต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง...เพราะถ้าเราจิตใจอ่อนแอ ส่วนอื่น ๆก็อ่อนแอตามไปด้วย ดีจังที่เรามีความรู้สึกแบบนี้ ..อืม แต่ก็กลัวใจตนเองนะ กลัวมีความรู้สึกเฉื่อยชากับใครบางคน ถึงตอนนั้นล่ะ เราก็ไม่ต้องการเค้าแล้วในชีวิตเรา กลัวจัง กลัววันนั้นมาถึง....ก็จะพยายามจะไม่ให้มีความรู้สึกแบบนั้นกะเค้านะ ใช่ชีวิตเป็นของเรา ฉะนั้นความรู้สึกต้องเป็นของเราด้วย เราต้องควบคุมมันได้ ...ค่ะบทสรุปของ ความคิดถึงกับครามรู้สึก ที่รู้สึกคืนนี้....ข้อยขอจิกปลายนิ้วเขียนเด้อค่ะ

ค่ำคืน..กับRose' ไวน์


อารมณ์วันนี้อยากดื่มไวน์แฮ่ะ อาจเพราะว่าไปซื้อปลามาย่าง กลิ่นน่าดื่มกับไวน์ขาวรสชาติดี ๆเนาะ เลยไปซื้อไวน์โรเซ่สีชมพู ชีราส ก็รสชาติดีเหมือนกัน นาน ๆลองดื่มดู เคยดื่มแต่ไวน์ขาวคาบาเน่ แต่แอลกอฮอร์ก็แค่สิบกว่าเปอร์เซนต์ไม่ถือว่าแรงไปดื่มๆ สบายๆ แฮ่ะๆ วันนี้ก็ระบายเรื่องการดื่มไวน์เสียเรา เฮ้อ.ชีวิตนี้มีอะไรที่ดีกว่านี้เนี่ย..แต่ก็ช่างมันเถอะ ให้ชีวิตผ่านไปวัน ๆ พรุ่งนี้ก็คงสุขใจมากกว่านี้ ใครว่าเนาะ ชีวิตเมืองนอกสบาย เหงาหาบ้านขนาด จริงนะ คำว่าที่ "ที่ไหนบ่สุขใจเหมือนบ้านเรา" (เขียนถูกเปล่าเนี่ย) สรุปแล้วที่ไหน ๆ ก็บ่สุขใจเท่าแผ่นดินไทยเราค่ะ ไม่ว่าอาหารการกิน ความเป็นอยู่ ผู้คน จริงๆ นะ ทุกที่สู้บ้านเราบ่ได้เลย ที่สำคัญนะ อะไร ก็แพงงๆๆๆๆมั่กๆๆๆ ไปซื้อกับข้าวคิดถึงตลาดบ้านนอกเราเหลือเกิน ....ผักถูกมั่กๆ ชาวบ้านเราก็น่ารัก เฮ้อ..ก็ระบายไปงั้นแระ ก็เลือกมาใช้ชีวิตแบบนี้เนาะ ก็ไม่ได้ระบายแบบเครียดๆ อะไร แต่อยากบ่นว่าคิดอะไรอยู่นะ ....(วันนี้ที่บ้านเรา มีการใช้รถไฟไปลาวครั้งแรก ดีจังเนาะ .พอดีฟังจากวิทยุ Fm95) ดีเนาะ วันหลังเราก็นั่งรถไฟไปเทียวลาวได้ ซำบายดีหลวงพระบาง) แฮ่ะๆๆ

ความคิดถึง...กำลังเดินทาง



เช้านี้อากาศที่นี่ก็เป็นใจซะ เดียวก็หิมะตก เดียวก็ฝนตก เดียวก็ครึ้ม ๆ ชวนให้มีอาการ ขี้เกียจดีนักแล ..นั่งเล่นเรื่อยเปื่อย แชทออนไลน์ตามประสา ฟังเพลงไปด้วย(จากเน็ต) เห็นดีเจพูดถึงเพลง เนื้อเพลงเพลงหนึ่ง "ความคิดถึง..กำลังเดินทาง....แต่ไม่ทันฟังว่าเป็นเพลงอะไร ..วิทยุจากเน็ตก็หลุดไปเสียนี่ เลยอดฟังเพลงเลย ..แต่ก็ชอบเนื้อหาบางตอนของเพลงนี้นะ ..ความคิดถึง..กำลังเดินทาง..(เดินทางไปไหนหนอ อิอิ)... วันหลังจะหามาฟังเสียหน่อยเพลงนี้ น่าจะไพเราะ..ดี ใช่เนาะ ความคิดถึงของเราตอนนี้กำลังเดินทางไปไหนๆ ก็ไม่รู้ ไปเรื่อยเปื่อย ตามประสาคนอยู่คนเดียว (คนใกล้ชิดไปธุระ) ตอนนี้ก็มีเวลาคิด เวลาทำอะไรคนเดียว เหมือนชีวิตโสดไงไม่รู้ ถามว่าชอบไหม อืม..ก็ดีนะ แต่ถ้ามีคู่ก็ดี ได้ปรึกษากัน อบอุ่นดี เหมือนชีวิตปลอดภัยดีเหมือนกัน ถามว่าแกร่งไหม ถ้าต้องอยู่คนเดียวตลอดไป ตอบว่า ...อยู่บ่ได้เจ้า....ชอบต้องมีเพื่อน ...มีใครมากวนๆ ชอบที่จะต้องดูแลใครสักคน (หรือสองคนก็ได้ ..เอ๊ะ..ไงเนี่ย.แฮ่ะๆ) หมายถึง ถ้ามีลูกก็ดีนะ มีสักสองสามคนเนาะ ความฝันก็คือความฝันแระ เฮ้อ...

ไปหมักหน้าดีกว่า แฮ่ะๆ

(ความคิดถึง...กำลังเดินทาง...ไปหาใครบางคน...อิอิ)

การปล่อยวาง



พอดีวันนี้หลังไปเดินเล่นบนเขา และมานั่งฟังสปอร์ตโฆษณาจากวิทยุไทย(จากเน็ต) ได้เอาวาทะเล็กๆ ของพระมาพูด วันนี้ก็พูดยาว..แต่ฟังได้จำเพียงคำว่า"การปล่อยวาง" สรุปสั้นก็คือการปล่อยวางในความคิดทุกอย่าง ถ้าปล่อยวางมันได้ จะทำให้ชีวิตเป็นสุข อืม....ฟังดูแล้วก็เข้าท่าดีแฮ่ะ เนาะ..จริงๆ นะ ถ้าเราปล่อยวางอะไรไปได้บ้าง คนเราก็จะมีสุขอย่างที่พระท่านเทศให้ฟัง...คนเราก็แค่นี้แระ จะสุขจะทุกข์ก็อยู่ที่ใจจริงๆ ถ้าแถมด้วยการปล่อยวางได้แล้ว ว้าว...สุขใจดีนักแล.......

ข้อกำหนดของความรู้สึก.


สังเกตุว่า เวลาเขียนบันทึกระบายความรู้สึกตนเอง จะเหมือนเป็นคนขี้เหงาเสียงั้น มันก็ไม่เชิงว่าเหงาตลอด เป็นบางเวลา บังเอิญว่าช่วงเขียนนั้น อารมณ์มาพอดี จังหวะก็เลยลงตัว คืนนี้อีกเช่นกัน เป็นอีกค่ำคืนหนึ่งที่นอนไม่หลับ พยายามข่มตาแล้วก็ยังไม่หลับ อาจเพราะในสมองมีเรื่องคิดมากมาย พวก juck mail รกสมองตามเคย ก็นอนคิด จิกพิมพ์เขียนอะไรเรื่อยเปื่อยตามประสา ตาเริ่มง่วงแระ ไปนอนแระ ไนท์ ๆ (ไนท์ใครนะ)

ความเหงาที่ยาวนาน


คืนนี้ก็เป็นอีกคืนหนึ่งที่มีความรู้สึกเหงาๆ คิดถึงบ้าน คิดถึงสิ่งต่างๆ ที่เคยทำ ใช่ว่าใครบังคับ ที่ต้องอยู่ห่างไกลบ้าน เพราะเราเลือกเองที่ต้องมาอยู่แบบนี้ ก็ต้องยอมรับมันล่ะเนาะ แต่ก็ไม่นานแล้วก็จะได้ไปอยู่บ้านไปใช้ชีวิตที่เราต้องการ ได้อยู่ชิดใกล้กับบ้านเกิดของตัวเอง พอแล้วสำหรับประสบการร์ที่นี่ เป็นคนไกลบ้าน ถึงไม่นานนัก แต่ถือว่านานโขเชียว สำหรับในความรู้สึกตนเอง

ใช่ไหม ..เวลาเราอยู่คนเดียวนี่ ความคิดนั้นจะอยู่เหนือความรู้สึกเราจริง คิดอะไรเรื่อยเปื่อย ต้องพยายามอย่างแรงที่ต้องดึงความคิดให้อยู่ใต้ความรู้สึก ความคิดคือเหงา ๆ โดดเดี่ยว..ก็พาลให้ความรู้สึกมันยิ่งเหงาเข้าไปใหญ่

เหมือนตอนนี้ อิอิ เหงาจัง..สงสารตัวเองจังเลย แต่ก็ช่างมันเถอะ....โตแระ.. เพราะเราเลือกเองไง

บางทีก็เบื่อนะ สำหรับการรอคอย รอคอยอะไรสักอย่างหนึ่ง ..เฮ้อ...



กับการอยู่กับตนเอง


เวลาที่เราต้องการใครมาอยู่เคียงข้างตลอดเวลานั้น มันช่างทรมานนะ เพราะทุกคนก็มีเวลาส่วนตัว มันเป็นไปไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญอันดับแรกคือ ทำตนเองให้เข้มแข็ง ต้องอยู่ด้วยตนเองได้ เพราะเราเกิดมาก็มาคนเดียวอยู่แล้ว จะอะไรมากมาย กับอะไร ในโลกนี้ เออ...เนาะเขียนถึงตรงนี้ ดูเหมือนเรา เครียด ๆ กับชีวิตจังเลย แต่เปล่าหรอกนะ เพียงแต่จะเตือนตนเองว่า ทำอย่างไรให้อยู่ได้เท่านั้น

ถามว่า ทุกวันนี้จัดการ หรือให้กำลังใจกับตนเองอย่างไร ก็อยากตอบว่า ก็พยายามให้กำลังตนเอง และจัดการความเหงา ความโดดเดี่ยวออกไป เมื่อมีความรู้สึกแบบนี้ก็พยายามสุดฤทธิ์ที่จะสลัดมันออกทันที ใช่บางที่ค่อนข้างยากเหลือเกิน แต่ต้องพยายามมากเหมือนกัน เลยถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว สำหรับความเหงา ความโดดเดี่ยวที่มีอยู่ ถามว่า มีเหรอ ..มีซิ มันจะเข้ามาตลอดล่ะ อิอิ..แต่ก็ช่างมันเถอะ ชีวิตคนเราก็เป็นแบบนี้แระ ..จะอะไรมากมายเนาะ ก็ทำวันนี้ให้ดีที่สุด และให้มีความสุขที่สุข ดีที่สุด ต้องที่สุดล่ะชีวิต

ความเดิมตอนที่แล้ว


ชื่อเรื่องวันนี้เหมือนเป็นตอนต่อไปของนิยายเลย เปล่าหรอก ก็เป็นชื่อเรื่องของเรื่องจริงๆ เกี่ยวกับว่าจะย้อนถึงเรื่อง ความเดิมในความรู้สึกของตนเอง เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ก็เลยสรุปเป็นแบบนี้แระ

วันนี้ก็ไม่รู้จะทำอะไร ก็เลยเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งเล่นบนเตียง เอาโน๊ตบุ๊คมานั่งแล้ว จิกเขียนอะไรเรื่อยเปื่อย ก็ถือว่าเป็นการระบายความรู้สึกอย่างหนึ่งของตนเอง ซึ่งก็ทำเป็นประจำอยู่แล้ว วันนี้ก็เช่นเดิม แต่ช่วงนี้อาจมีเวลามากหน่อยว่า มีเวลาเยอะล่ะเนาะ

จะว่าไปแล้วทุกเรื่อง ทุกความรู้สึกจริงๆนะ มันอยู่ที่อารมณ์นึกคิดของคนเรานั่นเอง ถ้าเราคิดว่าวันนี้มีความสุขเราก็สุข ถ้าเราคิดว่าวันนี้มีทุกข์(ใจ)เราก็ทุกข์ จริงๆ นะ เคยลองมาแล้ว ถ้าอยากให้อารมณ์เหงาๆ แค่นึกอารมณ์นั่น แป๊บเดียะ มาเลยเจ้าความทุกข์ใจ เพราะฉะนั้นตนเองจึงพยายามอย่างสุดซึ้งที่จะไม่นึกถึงความทุกข์ (แต่ก็พยายามสุดฤทธิ์เหมือนกัน บางทีมันก็มาเองโดยไม่ต้องนึกคิดเชียวนะ มาเองเลย)ใช่ว่าเรื่องง่ายดายเนาะ

แต่เค้าว่ากันว่า การอยู่กับตนเอง บางทีก็มีส่วนดีนะ แต่ถ้าเป็นบ่อยๆ ก็ไม่ดี
สรุปแล้ว ความเดิมตอนที่แล้ว ก็เป็นเช่นนี้แล....งงกะเค้าซินะ อิอิ

ในความตอนหนึ่ง ของวันนี้

ในความตอนหนึ่งของความรู้สึกตัวเอง เหมือน อากาศวันนี้ ครึ้ม ๆ ฝนตกปรอยๆ ชวนให้ไม่ขยันเอาเสียเลย นั่งเล่นบนเตียง กับไอ่เจ้าโน๊ตบู๊คอยู่เลย เดียวกะว่าจะไปอาบน้ำนอนแช่อ่างน้ำอุ่นเสียหน่อย เพิ่มความกระฉับกระเฉ่งให้ตนเองว่างั้นเถอะ..ช่วงนี้ของชีวิตก็เหมือนholiday แต่มันยาวไปนะ คิดว่าใกล้หมดแล้วแระ ช่วงนี้ ตอนนี้ก็เลยปล่อยเวลาให้มันหมุนตามจังหวะของชีวิตของโลกที่หมุนไป อย่าคิดอะไรมากมาย ทำวันนี้ของวันนี้ของตนเองให้ดีที่สุด พยายามที่จะทำชีวิตให้สุข ให้มีค่าในแต่ล่ะวัน อยากนอนเต็มอิ่ม ตื่นเช้ามาสดชื่น ไม่ต้องหนักหัวสมอง วันนี้ยังทำไม่ได้ คิดว่าพรุ่งนี้คงทำได้ ตื่นมาพร้อมกับความสดชื่นของวันใหม่ ใช่นะ คนเราต้องอยู่ด้วยได้ตนเองจริง ๆ ยามที่เราเหงา โดดเดี่ยว ตนเองเท่านั้นที่จะช่วยตนได้ แต่มันทรมานนะ กว่าจะผ่านจุดนี้ไปได้ ความเหงาในใจนะ แต่ก็ช่างมันเถอะ (หลายช่างแล้วนะเนี่ย) เราโตแล้ว มีชีวิตรอดมาได้เกือบจะสี่สิบปีแล้ว(ความจริงก็ถึงแล้วนะ) แต่ยังไม่อยากนับเลขสี่ ดูเหมือนจะแก่ไปแฮ่ะๆๆๆ อ๋อ.พูดถึงมาถึงวันนี้ ก็เร็วเหมือนกันเนาะ ยังบ่ได้ทำอะไรที่ตัวเองอยากได้เลย ถ้ามีจังหวะ มีโอกาส ก็คงทำ แน่นอน ไม่อยากเสียใจเมื่อเราอายุห้าสิบ แล้วคิดเสียดาย..เออ..ว่าแต่จะทำอะไรเนี่ย....พอแระ ไปอาบน้ำดีกว่า....................